รับปรึกษาระบบบำบัดน้ำเสียและอื่น ๆ นำธุรกิจสู่ความยั่งยืน

บ่อปรับเสถียร (Stabilization Pond)

เป็นระบบบำบัดที่อาศัยกระบวนการทางธรรมชาติในการย่อยสลายของเสีย โดยน้ำเสียจะถูกพักไว้ในบ่อที่มีขนาดใหญ่และตื้นลึกในระดับที่เหมาะสม ให้จุลินทรีย์ในน้ำทำงานร่วมกับแสงแดดและออกซิเจนจากอากาศ เพื่อย่อยสลายสารอินทรีย์ ระบบนี้ใช้ระยะเวลาบำบัดตั้งแต่ 7 – 30 วัน เหมาะกับโรงงานที่มีพื้นที่มาก และน้ำเสียไม่รุนแรง

บ่อเติมอากาศ (Aerated Lagoon)

เป็นการพัฒนาระบบบ่อปรับเสถียรให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยใช้เครื่องเติมอากาศหรือเครื่องพ่นลมเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ ช่วยให้จุลินทรีย์สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น ทำให้ลดระยะเวลาในการบำบัดลง ระบบนี้เหมาะกับโรงงานที่มีน้ำเสียที่มีปริมาณสารอินทรีย์สูง และต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าการบำบัดแบบธรรมชาติ

บึงประดิษฐ์ (Constructed Wetland)

ระบบนี้จำลองหลักการของระบบนิเวศในธรรมชาติ โดยใช้พืชน้ำ ดิน และวัสดุกรองเป็นตัวช่วยลดมลพิษในน้ำเสีย ซึ่งกระบวนการย่อยสลายและดูดซับสารอินทรีย์จะเกิดขึ้นทั้งในรากพืชและชั้นดิน เหมาะกับน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดเบื้องต้นมาแล้ว และต้องการลดค่ามลพิษก่อนปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม

แอกทิเวเต็ดสลัดจ์ (Activated Sludge)

เป็นระบบบำบัดแบบปิดที่ต้องควบคุมสภาพแวดล้อมในถังปฏิกรณ์อย่างใกล้ชิด โดยจุลินทรีย์จะทำงานในถังที่มีการเติมอากาศตลอดเวลา เพื่อย่อยสลายสารอินทรีย์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ระบบนี้เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการควบคุมคุณภาพน้ำหลังการบำบัดอย่างเข้มงวด

แผ่นจานหมุนชีวภาพ (Rotating Biological Contactor)

ระบบนี้ใช้แผ่นพลาสติกหมุนในถังน้ำเสีย โดยมีจุลินทรีย์เกาะอยู่บนผิวแผ่น เมื่อตัวแผ่นหมุนผ่านน้ำและอากาศสลับกัน จุลินทรีย์จะย่อยสลายสารอินทรีย์ไปพร้อมกัน การออกแบบที่หมุนเวียนนี้ช่วยให้ประหยัดพลังงานและง่ายต่อการดูแลรักษา เหมาะกับพื้นที่ที่จำกัดและต้องการระบบที่เสถียร

คลองวนเวียน (Trickling Filter)

น้ำเสียจะไหลผ่านชั้นวัสดุกรอง เช่น กรวดหรือแผ่นพลาสติก ที่มีจุลินทรีย์เกาะอยู่ เมื่อของเสียสัมผัสกับจุลินทรีย์บนพื้นผิวเหล่านี้ ก็จะถูกย่อยสลายอย่างต่อเนื่อง ระบบนี้มีโครงสร้างที่เรียบง่าย ไม่ต้องใช้พลังงานมาก และเหมาะกับโรงงานที่มีน้ำเสียปริมาณไม่มาก